ตัวเลข...ความเชื่อของคนไทย

 

      เรื่องของตัวเลขที่มีความหมายเป็นสิริมงคลนั้น เชื่อกันว่า หากได้ผูกพันกับเลขเหล่านั้นแล้ว เมื่อประกอบภารกิจใด ชีวิตก็จะประสบกับความเจริญรุ่งเรือง จนบางคนถึงกับเสาะแสวงหา “เลขทะเบียนรถยนต์” ของตนให้เป็นเลขมงคล พอเวลามีการประมูลเลขทะเบียนสวย หรือเลขมงคลของสำนักงานขนส่งฯ แต่ละจังหวัด หลายๆ คนก็จะต้องขวนขวายลงทุนไปประมูลในราคาสูงๆ เพื่อให้ได้เลขมงคลที่ตัวเองชื่นชอบ โดยคิดว่าจะนำความเป็นสิริมงคลมาให้  ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามในชีวิต รวมทั้งเกิดความมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ด้วย
      มี “ตัวเลข” อะไรบ้างที่คนไทยถือเป็นเลขมงคล
      มี “ตัวเลข” อะไรที่คนจีน คนญี่ปุ่น คนฝรั่ง เขาถือเป็นเลขมงคล และไม่ถือเป็นเลขมงคล หรือเลขที่ควรหลีกเลี่ยง
 
เลข 9 ในความเชื่อของคนไทย
 เลข 9 เป็นเลขที่มีความหมายในทางมงคล “เลขเก้า” นอกจากเสียงจะเป็นมงคล เพราะออกเสียงพ้องกับคำว่า “ก้าว” ที่อาจหมายถึง ความก้าวหน้า ก้าวไกล หรือก้าวไปข้างหน้า บ้างก็ว่า เลข 9 ยังหมายถึง การมีอายุยืนด้วย
 ขอให้สังเกตงานมงคลต่างๆ จะยึดเลข 9 เป็นหลักเวลานำมาใช้ในเรื่องของฤกษ์ยาม ที่ต้องเป็นวันที่ 9 เดือน 9 รวมทั้งขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยเลข 9

เลข 8 ในความเชื่อของคนไทย เป็นเลขที่มีความหมายเป็น 2 ทาง กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า เมื่อเกี่ยวข้องกับเลข 8 จะร่ำรวย เลข 8 มีความหมายดี อีกทางหนึ่งเลข 8 ในความเชื่อของคนไทยบางกลุ่มเชื่อว่า เป็นเลขไม่ดี เป็นเลขแห่งราหู หมายถึง การทะเลาะวิวาท ความเดือดร้อน

เลข 7 ในความเชื่อของคนไทย
คนไทยถือว่า เลข 7 เป็นเลขไม่เป็นมงคล มีคำกล่าวโบราณเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่ว่า โทษทุกข์ ทายเสาร์ เลข 7 เป็นเลขแห่งความทุกข์ ความอมทุกข์

เลข 6 ในความเชื่อของคนไทย
เป็นเลขที่คนไทยถือว่าไม่ดี หรือไม่เป็นมงคล เนื่องจากเวลาออกเสียงแล้ว เสียงไม่เป็นมงคล คือ หมายถึง หก ตก ทำอะไรไม่ขึ้น ล้มไม่เป็นท่า 
คนโบราณจึงเชื่อกันว่า เลขทะเบียนรถยนต์ไม่ควรมีเลข 6 และ เลข 0 เพราะจะทำให้เกิดการสูญหายหรือหก ตามคำอ่าน เรียกว่าตัวเลขอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือมีเหตุที่ไม่ดีกับรถ บางคนจึงหลีกเลี่ยงทะเบียนรถยนต์ที่มีเลข 0 กับเลข 6

เลข 4 ในความเชื่อของคนจีน
คนจีนจะไม่ชอบเลข 4 เพราะออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ตาย (ซี้)” ในภาษาจีน เลข 73 กับ เลข 84 ถือว่าเป็นเลขอัปมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเชื่อกันว่า “ขงจื้อ” เสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี และ “เมิ่งจื้อ” เสียชีวิตเมื่ออายุ 84 ปี ก็ขนาดนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่สามารถข้ามพ้นตัวเลขนี้ไปได้ คนธรรมดายิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้น ผู้เฒ่าผู้แก่เมื่อมีอายุ 73 ปี หรือ 84 ปี ทั้งตนเองและลูกหลานก็จะหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึง

เลข 13   เป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า หมายเลข 13 คนฝรั่งถือเป็นเลขไม่ดีหมายเลขห้องตามโรงแรมจะข้ามห้องหมายเลข 13 ไป โดยเฉพาะถ้าวันที่ 13 ตรงกับวันศุกร์ จะถือเป็นวันที่โชคร้ายที่สุด
อาถรรพณ์เลข 13 นั้น ชาวคริสต์เชื่อว่า เลข 13 เป็นเลขอัปมงคล เนื่องจากเป็นอาหารมือสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ ที่เรียกกันว่า “เดอะ ลาสต์ ซัปเปอร์” (The last Supper) ที่มีสาวกร่วมโต็ะพร้อมหน้ากันกับพระองค์รวม 13 คน
และความเชื่อที่ว่า วันศุกร์เป็นวันโชคร้าย เพราะเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขน และเป็นวันที่ “อดัม” กับ “อีพ” ละเมิดกัดแอปเปิ้ลต้องห้ามของพระผู้เป็นเจ้าในสวนเอเด็น จนต้องถูกขับไล่ออกมา
ยิ่งกว่านั้น ยังเชื่อว่า เป็นวันที่อดัมกับอีฟ ล้มตายไปจากโลกอีกด้วย ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ตรงกับวันที่ 13 จึงเป็นวันที่เลวร้ายมากวันหนึ่ง
เลข 13 มีอิทธิพลขยายออกไปอย่างกว้างขวางในอเมริกาและยุโรป ขนาดที่ทำให้นักเดินเรือในบางประเทศ ไม่ยอมออกเรือในวันที่ 13 และถ้าสังเกตดูให้ดี ลิฟท์ตามโรงแรมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะไม่มีชั้น 13 คือจะมีตัวเลขบอกลิฟท์ชั้น 12 แล้วชั้นต่อไปจะเป็นชั้น 14 เลย แต่ที่แปลกไปกว่านั้น ในประเทศตุรกี ถึงขนาดตัดเลข 13 ออกไปจากสารบบของตัวเลขเลยทีเดียว

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หลายคนคงจะรู้จักและเข้าใจ “เลขมงคล” ทั้งในความเชื่อของคนไทยและคนต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า เลขใดเป็นเลขมงคลและเลขใดเป็นเลขที่ไม่ดี หรือเป็นอัปมงคล

ส่วนที่ว่าใครจะนำความเชื่อเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองหรือคนใกล้ชิดได้อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ดุลยพินิจและใช้ความคิดอ่านของแต่ละท่านเป็นสำคัญ เชื่อไหมว่า มีหลายเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ เพื่อจะได้เข้าใจคนรอบข้าง และเข้าใจสังคมให้มากที่สุด จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความหมายและมีความสุข

 

แสดงความคิดเห็น: ดิฉันขอเชื่อใน ตัวเลข เพราะจากที่เห็นในสถานการณ์ต่างๆ

ท่านผู้อ่านจะเชื่อหรือ  (กรุณาอย่าลบลู่)

 

 

http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=97&post_id=50737

 

 

ที่มา:http://www.l3nr.org/posts/395230