การตั้งราคาเบอร์โทรศัพท์
"เบอร์นี้ถือว่าเป็นเบอร์สวยมั้ย" "เบอร์นี้ควรจะตั้งราคาขายสักเท่าไรดี" ...
ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะพบเจอคำถามพวกนี้ในบอร์ดได้อยู่บ่อยๆ เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะพบกับการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต (ว่าไปนั่น) ขณะที่จะทำการเลือกซื้อเบอร์โทรศัพท์สวยๆมาใช้สักเบอร์หนึ่ง เพราะเบอร์สวยก็ออกมาซะเยอะแยะคล้ายๆกันไปซะหมด ดูไปดูมาตาก็อาจจะลายเอาซะง่ายๆ มีสารพัดหมวด สารพัดเครือข่ายให้เลือกใช้กัน และก็ในทางกลับกัน การที่จะขายเบอร์ออกไปบางครั้งก็ตั้งราคาขายไม่ถูกอีกว่าจะขายสักเท่าไรดี บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับเบอร์สวยแต่ละประเภทกันครับ เชื่อว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว คงจะได้ความรู้เกี่ยวกับเบอร์สวยไม่มากก็น้อยครับ
"หลักการดูเบอร์สวยจะเริ่มดูที่ 4 ตัวท้ายของเบอร์โทรศัพท์ก่อน, แล้วจึงดูที่ 4 ตัวหน้า, ดูโดยรวมอีกรอบหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจครับ"
ปัจจัยที่ทำให้เบอร์สวยมีราคาต่างกันก็จะขึ้นอยู่กับเครือข่าย ซึ่งของ AIS จะแพงที่สุด รองลงมาก็คือ DTACต่อมาก็คือ Orange, DPC และ Hutch จะสูสีกัน สุดท้ายก็คือ Thai Mobile 1900 ครับ นอกจากเครือข่ายจะเป็นปัจจัยหลักแล้ว ปัจจัยที่รองลงมาก็คือรหัสนำหน้าซึ่งหากขึ้นต้นด้วย 01 จะได้ราคาดีที่สุด รองลงมาก็คือ 09, 06 และหมวดใหม่ๆอย่าง 07, 05, 04, 03 จะอยู่ท้ายๆครับ
ก่อนอื่น มาเริ่มทำความรู้จักกับประเภทของเบอร์สวยกันก่อนดีกว่าครับ
1. เบอร์สวย (มากๆ)
1.1 เบอร์โฟร์
ลักษณะของเบอร์โฟร์ก็คือ “4 ตัวท้ายเป็นตัวเลขเดียวกัน” เช่น 0-1ABC-5555 (ไม่นับพวกโฟร์หน้า หรือ โฟร์กลางนะครับ) เบอร์พวกนี้จะขายได้ราคาที่ระดับหมื่นเป็นต้นไป และบางเบอร์อาจจะเฉียดๆแสนก็เป็นได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโฟร์อะไร และข้างหน้าโฟร์เป็นเลขประมาณไหน เช่น ถ้ามีคู่หน้าโฟร์ ราคาก็จะพุ่งขึ้นไปอีก หรือถ้าหากเป็นตองหน้าโฟร์ ราคาอาจจะไปที่หลายๆแสนเลยก็เป็นได้ครับ ตัวเลขยอดนิยมก็คงจะเป็นโฟร์ศูนย์ (เบอร์หมื่น), โฟร์เก้า, โฟร์แปด ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7-8 หมื่นบาท ส่วนที่ลดหลั่นกันไปก็จะเป็น โฟร์ห้า, โฟร์เจ็ด, โฟร์สาม, โฟร์หนึ่ง ราคาะอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนเลขที่ไม่ค่อยจะมีคนนิยมก็ 2, 4, 6 ราคาจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 30,000 ครับ
1.2 เบอร์ไฟว์
ลักษณะของเบอร์ไฟว์ก็คือ “5 ตัวท้ายเป็นตัวเลขเดียวกัน” และแน่นอนว่า ไม่นับพวกไฟว์หน้าหรือไฟว์กลางเช่นกัน เบอร์พวกนี้จะแพงกว่าเบอร์โฟร์ประมาณ 2-3 เท่า และไม่ค่อยจะมีขายในตลาดด้วยครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกระดับคนใหญ่คนโตใช้กัน (ผมไม่ได้หมายความว่าคนธรรมดาจะไม่มีสิทธิ์ใช้นะ) ตัวเลขยอดนิยมก็เหมือนกับเบอร์โฟร์ครับ คือ 0, 9, 8, 5, 7
เบอร์ซิกซ์ (6 ตัวท้ายเหมือนกัน), เบอร์เซเว่น (7 ตัวท้ายเหมือนกัน) ก็ทำนองเดียวกันครับ ราคาอยู่ที่ประมาณหลายๆแสนจนถึงเป็นล้านเท่านั้นครับ ผมเคยเจอเบอร์ที่มาบุญครอง 0-1888-8888 ประกาศขายไว้ที่ล้านกว่าบาทครับ!
ส่วนเบอร์ที่เป็น 8 ตัวเลขเหมือนกัน (รวมรหัสแล้ว) ยังไม่เคยเห็นวางขายครับ เรื่องราคา อย่าไปคิดเลยครับ เกินเอื้อมจริงๆ
1.3 เบอร์ 2 ตอง
ลักษณะของเบอร์ 2 ตองก็คือ “6 ตัวท้ายเป็นเลขตอง 2 ชุด” หรือ “ตองหน้า-ตองหลัง” เช่น 0-1488-8999 หรือ 0-1444-9888 ส่วนที่เป็น “ตอง-ตอง-เลขต่อท้าย” ให้ข้ามไปที่เบอร์ตองใน ที่อยู่ในหมวดจำง่ายละกันครับ
สำหรับราคาของเบอร์ 2 ตองนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 หมื่นบาทครับ โดยที่ 2 ตองแบบแรกจะแพงกว่าแบบหลังครับ
1.4 เบอร์พัน-พัน
ลักษณะของเบอร์พัน-พันก็คือ “มีเลขพัน 2 ชุด” เช่น 0-9000-4000 สนนราคาก็แสนขึ้นครับ
2. เบอร์สวย (ปกติ)
สำหรับคนที่ทุนรอนน้อยๆอย่างผมมิอาจเอื้อมไปสอยเบอร์ข้างบนหรอกครับ คราวนี้มาดูเบอร์สวยแบบธรรมดาๆกันบ้างดีกว่า เริ่มกันที่
2.1 เบอร์ตอง
แบ่งเป็น 2 ประเภทครับ คือเบอร์ตองหลัง และเบอร์ตองใน
2.1.1 เบอร์ตองใน
จะไม่นับว่าเป็นเบอร์สวยก็ยังได้ครับ ลักษณะของเบอร์แบบนี้ก็คือ XXXY เบอร์แบบนี้ไม่เป็นที่นิยมเล่นมากนัก บางทีราคาอาจจะถูกกว่าเบอร์ XXYY ซะอีก
2.1.1 เบอร์ตองหลัง
ลักษณะของเบอร์แบบนี้ก็คือ XYYY (สามตัวหลังเป็นตัวเลขเดียวกัน) เป็นเบอร์ที่นิยมเล่นกันมากครับ เพราะราคาไม่แพงมาก และมีขายเยอะ ตัวเลขที่นิยมก็ยังคงเป็นตัวเลขเดิมครับ คือ 0, 9, 8, 5, 7 สนนราคาก็ต่างกันไปตามตัวเลขและรหัสนำหน้า โดยช่วงราคาจะอยู่ที่ไม่กี่ร้อย (เช่น ตอง 4, ตอง 6) ไปจนถึงหลายๆพัน (เช่น ตองศูนย์, ตองเก้า, ตองแปด) ครับ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ทำให้เบอร์ตองมีราคาสูงขึ้นอีกนั่นก็คือ
มีคู่อยู่หน้าตอง เช่น 0-1456-6XXX
มี 2 คู่อยู่หน้าตอง เช่น 0-144-55-XXX
มีตอง อยู่หน้าตอง (อ่านได้จากด้านบนครับ)
2.2 เบอร์คู่ๆ
ลักษณะของเบอร์แบบนี้ก็คือมี 2 คู่อยู่ที่ด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น XXYY, XYXY หรือ XYYX ก็ถือว่าเป็นเบอร์ 2 คู่ทั้งนั้นครับ เป็นเบอร์ที่นิยมเล่นไม่แพ้เบอร์ตองครับ สนนราคาก็จะถูกกว่าเบอร์ตองนิดหน่อย แต่บางคู่อาจจะสูสีกับเบอร์ตองก็ได้ คู่ที่นิยมเล่นก็พวก 8899, 9988, 9900, 0099, 5599, 9955 คู่ที่ควรหลีกเลี่ยงก็พวก 4466, 1144, 3366, 6633
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ทำให้เบอร์คู่ๆมีราคาสูงขึ้นอีกนั่นก็คือ
มีคู่เพิ่ม ... จะเป็น 3 คู่หรือ 4 คู่ ราคาก็จะยิ่งขึ้นไปอีกครับ เช่น 0-1X22-3344 หรือ 0-9955-7788
มีตองหน้าคู่ เช่น 0-1777-XXYY ราคาอาจจะอยู่ที่หลายพันบาทครับ
2.3 เบอร์เรียง
ลักษณะของเบอร์แบบนี้ก็คือเป็นเบอร์ที่เรียงกัน 4 ตัวท้าย จะเรียงจากมากไปน้อย (เรียงลง) หรือน้อยไปมาก (เรียงขึ้น) ก็ไม่ผิดกฏิกาแต่อย่างไรครับ ส่วนเรื่องของราคานั้น จะสูสีกับเบอร์ 2 คู่ และถ้าเปรียบเทียบระหว่างเบอร์เรียงด้วยกันแล้ว เบอร์เรียงขึ้นจะแพงกว่าเบอร์เรียงลงครับ เบอร์ที่นิยมก็คือ 6789 ครับ ส่วนปัจจัยที่พอจะทำให้เบอร์เรียงมีราคาสูงขึ้นก็คงจะเป็น มีตองหน้าเรียง (เช่น 0-1555-5678), มีเรียง 2 ชุด (เช่น 0-1456-4567) เป็นต้น
2.4 เบอร์เลข 2 ตัว
ลักษณะของเบอร์แบบนี้ก็คือทั้งเบอร์มีเลขอยู่แค่ 2 ตัว โดยจะแบ่งเป็น 3 ประเภทย่อยๆไปอีกครับ
เลขหลักเดียว หมายถึง พิจารณาเบอร์ทั้งหมด 9 หลัก มีตัวเลขอยู่แค่ 2 ตัว คือ 0 และตัวเลขอีกตัวหนึ่ง เช่น 0-9009-9090 ราคาของเลขประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความสวยของเลข 4 ตัวท้าย และความสวยโดยรวมของเบอร์ครับ ในหมวดของเลข 2 ตัวนี้ เลขหลักเดียวจะมีราคาแพงสุด (ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเลขด้วยนะครับ)
สองตัวแท้ หมายถึง พิจารณาเบอร์ทั้งหมด 8 หลัก (ไม่รวมเลข 0 ตัวหน้าสุด) มีตัวเลขอยู่แค่ 2 ตัว เช่น 0-6644-6464 ราคาของเลขประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความสวยของเลข 4 ตัวท้าย และความสวยโดยรวมของเบอร์เช่นกันครับ
สองตัวเทียม หมายถึง พิจารณาเบอร์ทั้งหมด 7 หลัก (ไม่รวมรหัส 2 ตัวหน้าสุด) มีตัวเลขอยู่แค่ 2 ตัว เช่น 0-1899-9988 ราคาของเลขประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความสวยของเลข 4 ตัวท้าย และความสวยโดยรวมของเบอร์เช่นกันครับ
3. เบอร์จำง่าย
ลักษณะของเบอร์พวกนี้ก็คือ ไม่ถือว่าเป็นเบอร์สวย แต่ว่ามันจำง่าย ตัวอย่างก็เช่น
3.1 เบอร์สูตรคูณ
จริงๆแล้วอยากจะจัดเบอร์สูตรคูณอยู่ในหมวดเบอร์สวยเหมือนกันแหละครับ แต่คิดๆดูแล้ว เบอร์พวกนี้มันจะสวยก็ต่อเมื่อพูดบอกเบอร์เท่านั้น แต่เมื่อพิมพ์ลงนามบัตรแล้วมันไม่สวยเอาซะเลย เช่น 0-4728-4832 เวลาจะบอกเบอร์ก็ ศูนย์-สี่-เจ็ด-ยี่สิบแปด-สี่-แปด-สามสิบสอง หรืออย่างเบอร์ 0-1339-3412 เวลาจะบอกเบอร์ก็เป็น ศูนย์-หนึ่ง-สาม-สาม-เก้า-สาม-สี่-สิบสอง เป็นต้น
3.2 เบอร์ตองใน, โฟร์ใน, ไฟว์ใน, เบอร์ที่มีตัวเลขซ้ำกันเยอะๆ
เห็นโฆษณาขายเบอร์พวกนี้ก็เยอะพอสมควร แต่กลายเป็นซะว่าเป็นโฟร์ในซะหมด เช่น 0-1888-8XFH, 0-999X-9P9M สรุปว่ามันจำง่ายมั้ยเนี่ย - -“
3.3 เบอร์ชุด
จริงๆแล้วเบอร์ชุดที่สวยๆมันก็มีอะครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเบอร์จำง่ายซะมากกว่า เบอร์ชุดก็คือ “เบอร์ที่ 4 ตัวหน้าเหมือนกับ 4 ตัวหลัง” เช่น 0-6578-6578 สนนราคาไม่แพงมากครับ แค่พันกว่าบาทก็พอจะหาซื้อได้แล้ว แต่ถ้าเบอร์ชุดสวยๆ เช่น เป็นคู่ๆไปด้วยก็จะได้ราคาดีกว่านี้ครับ
3.4 เบอร์กระจก
เป็นเบอร์อีกประเภทหนึ่ง ที่คนขาย "พยายาม" จะทำให้สวยซะเหลือเกิน เพื่อที่จะได้ขายให้ได้ราคาที่สูงขึ้น แต่จริงๆ บางครั้งเบอร์เหล่านี้อาจจะทั้งไม่สวยและทำให้เกิดความสับสนในการจำ ตัวอย่างเบอร์เหล่านี้ก็เช่น 01-153-351-8, 09-365-365-2
4. เบอร์คู่รัก/เบอร์คู่แฝด
เบอร์ในหมวดนี้ มีทั้งเบอร์สวยและเบอร์ที่ธรรมดาครับ แต่ผมว่ามันมีคุณค่าทางใจนะ ลองซื้อมาใช้กับคนที่คุณรักสิ ^^ ... 555
ลักษณะของเบอร์พวกนี้ก็ค่อนข้างจะหลากหลายหน่อย เช่น 7 ตัวหลังเหมือนกัน ต่างกันแค่รหัส, ทั้งเบอร์มีเลขต่างกันแค่ตัวเดียว, คู่เดียว, ตองเดียว หรืออะไรก็ได้ที่มันคล้ายๆกันน่ะแหละ เช่น 0-1234-5678 กับ 0-9234-5678 หรือพวก 0-1345-77XX กับ 0-1345-77YY ประมาณนี้ครับ
ส่วนใหญ่เบอร์พวกนี้จะขายเป็นแพคเกจ (โดยเฉพาะเบอร์ที่ไม่สวย เพราะถ้าขายไปเบอร์เดียว แล้วอีกเบอร์เมื่อไหร่จะขายออกล่ะ) ประเภทที่ว่าซื้อเหล้าพ่วงเบียร์นั่นแหละครับ ราคาสำหรับเบอร์คู่รักจะอยู่ที่ประมาณคู่ละ 3000 บาท (สำหรับเบอร์ไม่สวย) จนถึงหลายๆแสนสำหรับเบอร์สวยๆ ครับ
การขายเบอร์ออกไปบางครั้งมันก็ต้องมีเทคนิคกันหน่อย ลองสังเกตกันดูนะครับ คนขายพยายามจะใช้การแบ่งตัวเลขเพื่อทำให้เบอร์ของตัวเองแลดูมีราคาขึ้นมา เช่น ปกติแล้วการเขียนเบอร์โทรศัพท์จะเขียนเป็นแบ่งเป็น รหัส-ตัวเลข 7 หลัก ซึ่งเป็นการเขียนแบบเก่า กับอีกอันหนึ่งก็คือ 0-รหัส ตามด้วยตัวเลข 3 หลัก-ตัวเลข 4 หลักท้าย อย่างเข่น เบอร์ 0-5130-1302 ก็อาจจะเขียนเป็น 05-130-130-2 พร้อมกับโฆษณาว่ามี 2 ชุดกลาง สำหรับผมแล้วไม่คิดว่าเป็นเบอร์สวย และไม่ควรจะจ่ายมากกว่าราคาปกติเพื่อซื้อเบอร์พวกนี้ครับ
สำหรับหลักการเลือกซื้อเบอร์นั้น อันดับแรกก็คือ “ไม่ต้องรีบร้อนครับ” ใจเย็นๆ เดินดูให้ทั่วๆสักรอบหนึ่งก่อน พิจารณาราคาที่ได้มาแล้วก็อย่าหลงเชื่อคำโฆษณามากครับ เบอร์ที่โฆษณาว่า VIP บางครั้งอาจจะไม่สวยจริงก็ได้ และราคาที่บอกมานั้น “ยังต่อรองได้อีกเยอะครับ” ต่อครั้งแรกก็ลองแย็บๆไปที่ 20 เปอร์เซ็นต์ก่อนเลย แฮ่ะๆๆ
ข้อมูลอ้างอิงจาก www.mxphone.com เนื้อหาโดย Dark Prince เมื่อ 22-06-2005
|