อันที่จริง microSIM นั้นก็มีมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถูกพูดถึงในวงกว้างมากนัก จนมาถึงช่วงนี้ microSIM นั้นถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนั่นก็ต้องยอมรับว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คำว่า microSIM เป็นคำฮิตติดหูในระยะนี้ก็คงจะเป็นการที่ Apple ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของตนเองอย่าง iPad รวมถึงที่เผยโฉมออกมาสดๆ ร้อนๆ อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือ iPhone 4 นั่นเอง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 อย่างนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง และต้องใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM เท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้คำว่า microSIM จะเป็นคำฮิตติดหูเพียงใด แต่ก็เข้าใจว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังไม่แน่ใจว่า microSIM นั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
microSIM จะว่าไปแล้วก็เป็นเพียงแค่ซิมการ์ดที่มีส่วนของพลาสติกล้อมรอบที่เล็กกว่าซิมการ์ดแบบทั่วไป (miniSIM) นั่นเองโดยในส่วนของแผงวงจรนั้นเรียกได้ว่าเหมือนกันแทบทุกประการ ขนาดของซิมการ์ดมาตรฐานที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน หรือ miniSIM นั้น จะมีความกว้าง 15 มิลลิเมตร และยาว 25 มิลลิเมตร ส่วน microSIM นั้นจะมีความกว้าง 12 มิลลิเมตร และยาว 15 มิลลิเมตร ส่วนความหนานั้นเท่ากัน คือหนา 0.76 มิลลิเมตร
เปรียบเทียบขนาดของ microSIM และ miniSIM
(ขอบคุณภาพจาก wikipedia)
ในเมื่อทราบว่าแผงวงจรของ microSIM และ miniSIM นั้นเหมือนกันแทบทุกประการ ก็เกิดคำถามต่อมาว่า เราจะสามารถนำ miniSIM ที่เรามีอยู่ มาทำการตัดด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะตัดด้วยกรรไกร คัตเตอร์ หรืออะไรก็ตาม ให้มีขนาดเท่ากับ microSIM แล้วไปเสียบใช้งานได้ทันทีเลยหรือไม่ คำตอบคือ สามารถทำได้ ด้วยเหตุที่ว่า ส่วนที่เราตัดออกเป็นเพียงแค่พลาสติกเปล่าๆ ที่ล้อมรอบแผงวงจรด้านในเท่านั้น จึงไม่ได้เกิดผลกระทบต่อการทำงานจริงๆ แต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนี้ก็เริ่มมีพ่อค้าหัวใส เริ่มทำอุปกรณ์สำหรับตัด miniSIM ให้เป็น microSIM โดยเฉพาะออกมาวางจำหน่ายแล้วอีกด้วย
หน้าตาของอุปกรณ์ที่เรียกว่า Cut my SIM ที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
มี Adapter สำหรับแปลง microSIM ให้มีขนาดเท่ากับ miniSIM เหมือนเดิมได้ด้วย
ก็สรุปว่าเราสามารถนำ miniSIM เดิมๆ ที่ใช้กันทั่วไป มาตัดเป็น microSIM ได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดก็มีบรรดาผู้ให้บริการในบ้านเราทั้ง เอไอเอส, ดีแทค และ ทรูมูฟ ต่างก็พร้อมใจกันเปิดตัว microSIM ของตนเองเพื่อตอบรับกระแส และความต้องการของผู้บริโภคอย่างทันควัน ซึ่ง microSIM ที่ทุกค่ายเปิดตัวมานั้น จะเน้นในเรื่องของ Data เป็นหลัก ไม่ได้เน้นในเรื่องของการโทรศัพท์แต่อย่างใด
microSIM จาก เอไอเอส มีให้เลือกทั้ง แบบเติมเงิน และ แบบรายเดือน
มีแพ็คเกจให้เลือกทั้ง 650 บาทต่อเดือน ที่ให้ใช้ EDGE/GPRS ได้ไม่จำกัด
หรือแบบ 150 ต่อเดือน ที่ใช้ 3G ได้ 500 MB และใช้ EDGE/GPRS ได้ 50 MB
ค่าย ดีแทค ก็เริ่มเปิดตัว microSIM ของตัวเองแล้วเช่นกัน
แต่ดูเหมือนจะไม่มีแพ็คเกจแบบเหมาจ่าย หรือแบบ Unlimited เหมือนกับอีกสองค่าย
โดยจะคิดค่าบริการ EDGE/GPRS ในอัตรา นาทีละ 0.25 บาท
ค่าย ทรูมูฟ ก็ไม่น้อยหน้า ออก microSIM มาอย่างทันท่วงที
โดยมีแพ็จเกจแบบ 650 บาทต่อเดือน ซึ่งใช้ EDGE/GRPS ได้ 1 GB, ใช้ 3G ได้ 1 GB และ WiFi ฟรี 3 เดือน
ส่วนแพ็จเกจแบบ 400 บาทต่อเดือน ใช้ EDGE/GPRS ได้ 500 MB, ใช้ 3G ได้ 200 MB และ WiFi นาทีละ 0.5 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Call Center หรือศูนย์บริการของแต่ละเครือข่าย ซึ่งจะเห็นว่า microSIM ของแต่ละเครือข่ายที่เปิดตัวออกมา ต่างก็เน้นไปที่การใช้งาน Data หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นหลัก และเมื่อทุกท่านได้อ่าน ทิป & ทริก นี้จบแล้ว ก็คงจะได้รู้จักกับ microSIM และ miniSIM กันมากขึ้นอีกไม่มากก็น้อย
---------------------------------------------------------------------------
นำเสนอ ทิป & ทริก ประจำวัน โดยคุณ ProTracker
ที่มา:http://www.thaimobilecenter.com
|