ความเชื่อในตัวเลขนั้นมีในทุกวงการ์ไม่ว่าจะทะเีบียนสวย วงการเบอร์สวย โหราศาสตร์ ดวง บ้าน ฮวงจุ้ย การงานธุรกิจ บริษัท เลขที่บ้าน ซึ่งบางทีเลขตัวเดียวแต่ความเชื่อก็มีหลากหลายตามศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรมในการดูของแต่ละที่แต่ละประเทศ ลองมาดูความเชื่อเหล่านี้กันเลยครับว่าคุณเชื่อตรงตามนั้นหรือไม่ (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านจ้้า)
เลข 4
สำหรับคนญี่ปุ่น 4 อ่านออกเสียงว่า ชิ ความตายก็อ่านว่า ชิ เช่นเดียวกัน ซึ่งออกเสียงคล้ายกันมาก จึงทำให้ห้องตามอพาร์ตเมนต์หรือโรงพยาบาลในญี่ปุ่นจะข้ามเลข 4 มีแต่ห้อง 1 2 3 ห้องต่อไปเป็นเลข 5 โดยที่ไม่มีเลข 4 ให้เห็นเลย ส่วนคนจีน ภาษาจีนเลข 4 ออกเสียง ‘ซี้’ คล้ายกับ ตาย ส่วนเลข 73 กับ เลข 84 เป็นเลขอัปมงคล เพราะเชื่อว่า ขงจื้อ สิ้นชีพตอนอายุ 73 ส่วน เมิ่งจื้อ เสียชีวิตเมื่ออายุ 84 ปี เมื่อเดินทางสู่วัยดังกล่าว ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงอายุ
เลข 666 หรือเลข 6
เชื่อกันว่าเป็นเลขอาถรรพณ์ การนอกลู่นอกรอย เป็นความวิตถาร ประหลาด ผิดเพี้ยน เป็นเลขซาตาน รวมทั้งเวลาออกเสียงแล้วไม่เป็นมงคลเพราะเลข 6 ออกเสียงแล้วพ้องกับคำว่าเจ็บไข้ได้ป่วยในภาษาอังกฤษอีกด้วย ส่วนชาวจีน เลข 6 กลับถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของความราบรื่น หนุ่มสาวคู่ใดที่จะแต่งงานจึงมักเลือกวันที่มีเลข 6 เป็นวันมงคล เช่นวันที่ 6 หรือไม่ก็วันที่ 16 รวมทั้งวันที่ 26 เพื่อเป็นเคล็ดให้ชีวิตคู่ราบรื่นสมหวังนั่นเอง จึงทำให้เห็นว่าเบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์มือถือหรือทะเบียนรถที่มีหมายเลข 6 8 และ 9 เป็นที่นิยมของชาวจีนเป็นอย่างมาก
เลข 7
คนยุโรป ถือว่าเลข 7 เป็นเลขที่ดีและให้โชคลาภ เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์และมีอำนาจพิเศษ ยิ่งถ้ามีหลายๆ ตัวจะยิ่งทำให้เกิดโชคดีมากขึ้นไปอีก
คนญี่ปุ่น ถือว่าเลข 7 เป็นเลขมงคล เพราะเลข 7 คนญี่ปุ่นอ่านว่า ชิจิ ประเทศญี่ปุ่นมีประเพณีกินสมุนไพร 7 ชนิด เชื่อกันว่าทำให้สุขภาพดี เลขเดียวต่างความเชื่อ ด้วยความเชื่อทางโหราศาสตร์ ‘ทายโทษทุกข์พลัดพรากต้องทายเสาร์’ ทำให้คนไทยเชื่อว่าเลข 7 (บริวารดาวเสาร์มี 7 ดวง) เป็นเลขแห่งความทุกข์ ต่างกับคนยุโรปและชาวอาทิตย์อุทัย ที่ถือ 7 เป็นเลขมงคล โดยคริสตจักรโรมันคาทอลิกเชื่อในศีลศักดิ์สิทธิ์ บาป และคุณธรรม ซึ่งล้วนมี 7 ข้อ และหากใครไปญี่ปุ่นคงเห็นประเพณีกินสมุนไพร 7 ชนิด เพื่อสุขภาพ
คนไทย มีคำกล่าวโบราณเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่ว่า โทษทุกข์ทายเสาร์ เลข 7 เป็นเลขแห่งความทุกข์ ความอมทุกข์ จึงมักถือว่าเป็นเลขไม่เป็นมงคลนักสำหรับคนไทย
ส่วนเลข 7 นับว่าเป็นเลขนำโชคในวงการนักพนัน เครื่องสล็อตแมชีนที่มีฉายาว่า โจรแขนเดียว ตั้งตัวเลขรางวัลแจ๊กพอตหรือรางวัลใหญ่สุด ถ้าตัวเลขทั้ง 3 ตำแหน่งออกตรงกันที่ 777 ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากมาก หากคนไหนยังเผอิญเล่นได้ตรงกับตัวเลขนี้ก็ถือว่าเฮงสุดๆ
เลข 8
คนญี่ปุ่น ถือว่าเลข 8 เป็นเลขมงคลอีกเลขหนึ่ง คนญี่ปุ่นอ่านออกเสียงว่า ฮะจิ มีความเชื่อว่าเป็นเลขแห่งความสมบูรณ์ ความสมดุล มีที่มาจากความเชื่อเรื่องศาสตร์แห่งความสมดุลของขงจื๊อ รวมทั้งความเชื่อในนิกายเซน ซึ่งไปพ้องกับความเชื่อของคนญี่ปุ่น
บอกไว้ว่าถ้าเป็นคนจีนต้องยกให้เลข 8 เป็นเลขมงคล คำออกเสียงเลข 8 ในภาษาจีนกวางตุ้งคล้ายกับคำว่า ร่ำรวย หรือ มั่งมี ส่วนชาวตะวันตกเชื่อว่าเลข 8 มีรูปร่างเหมือนเครื่องหมายอินฟินิตี้ในทางคณิตศาสตร์ จึงเชื่อว่าเลข 8 เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นนิรันดร์ ไม่สิ้นสุดและเป็นอมตะ
อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 88 ฝรั่งถือว่าเป็นตัวเลขนาซี เพราะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกนาซีและชาวเยอรมนีตะโกนคำว่า Heil Hitler ซึ่งเมื่อเขียนเป็นตัวย่อในภาษาอังกฤษจะกลายเป็น HH ดูคล้ายเลข 88 อีกทั้งตัวอักษร H ก็เป็นตัวอักษรในลำดับที่ 8 ในภาษาอังกฤษอีกด้วย เหล่านีโอนาซีในยุคหลังจึงประยุกต์นำเอาตัวเลข 88 มาใช้เพื่อสื่อถึงความนิยมนาซี
ชาวจีน ที่ทำการค้าจะชื่นชอบเลข 8 เป็นที่สุด เพราะ 8 ในภาษากวางตุ้งไปพ้องกับคำที่มีความหมายว่า ร่ำรวย มั่งมี ตั้งแต่เปิดประเทศมานั้นชาวกวางตุ้งเป็นรุ่นแรกๆ ที่เริ่มทำการค้าและประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง คนจีนในมณฑลอื่นๆ จึงถือเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจและถือเลข 8 เป็นเลขมงคลตามอย่างคนกวางตุ้งรวมทั้งยังหมายถึง 8 เซียน หรือโป๊ยเซียน ที่คอยดูแลปกป้องรักษา อีกทั้งยังไปคล้องกับสัญลักษณ์ความเป็นนิรันดร์ในยุโรป ซึ่งในปีหน้าจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งตรงกับ ค.ศ. 2008 อีกด้วย
ไทย เลข 8 ในความเชื่อของไทยมักเป็นเลขไม่ดี เลขแห่งราหู หมายถึงการทะเลาะวิวาท ความเดือดร้อน อีกเลขที่คนไทยมักขยาดกันคือเลข 6 อาจด้วยเหตุผลเดียวกันกับฝรั่งในเรื่องของการออกเสียงมาแล้วไม่เป็นมงคล ที่หมายถึงหก ตก ทำอะไรไม่ขึ้น ล้มไม่เป็นท่า
เลข 9
คนไทย ถือว่าเป็นเลขดี เลขมงคล ยอดฮิตติดลมบนมาโดยตลอด เพราะด้วยการออกเสียงที่พ้องกับคำว่าก้าว ที่หมายถึง ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งจะนิยมใช้ในงานมงคลต่างๆ โดยยึดเลข 9 เป็นหลักนำมาใช้ในเรื่องของฤกษ์ยามที่ต้องเป็นวันที่ 9 เดือน 9 รวมทั้งขึ้นต้นหรือลงท้ายของเวลาด้วยเลข 9
คนจีน ถือเป็นเลขมงคลเช่นกัน เนื่องจากเป็นเลขที่มีค่ามากที่สุดจึงเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความเป็นที่สุด นอกจากนี้เสียงอ่านของเลข 9 ยังพ้องเสียงกับคำว่า นาน ยาวนาน ที่แสดงถึง การมีอายุยืน จึงทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลข 9 จึงครองใจชาวจีนตลอดมาไม่ต่างจากคนไทย
คนญี่ปุ่น กลับมีความเชื่อเลข 9 ที่ต่างจากคนไทยและจีน โดยเลข 9 ในภาษาญี่ปุ่นอ่านออกเสียงว่า คุ ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำที่หมายถึง ความยากลำบากในภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นแดนซามูไรจึงถือว่าเลข 9 เป็นเลขที่ไม่ดี มีความหมายถึงความยากลำบาก
แม้เลข 9 จะเป็นเลขมงคลของชาวไทยเพราะพ้องเสียงกับคำว่า ก้าวหน้า สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง แต่ชาวญี่ปุ่นกลับถือว่าเลข 9 เป็นเลขอัปมงคลเพราะออกเสียงว่า คุ ซึ่งไปพ้องกับคำว่า ความยากลำบาก ถือว่าไม่ดีและไม่งาม นักเรียนมัธยมปลายที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยถ้าใครได้ทะเบียนสอบหมายเลข 9 ถือว่าโชคร้ายมากๆ
ชาวญี่ปุ่นยังถือตัวเลขอื่นๆ ที่ไม่ดี คือ 4 และ 13 ทำให้สายการบินแอร์นิปปอน แอร์เวย์ส ไม่มีที่นั่งหมายเลข 4, 9 และ 13
สำหรับชาวชาวอิตาลีเชื่อว่าเลข 17 น่ากลัวพอๆ กับเลข 13 เพราะเมื่อเขียนเลข 17 เป็นเลขโรมันจะได้ XVII และเมื่อสลับตัวอักษรเป็น VIXI จะมีความหมายว่า ฉันเคยมีชีวิตอยู่ ซึ่งแปลว่าตายแล้ว อาคารต่างๆ ในอิตาลีมักไม่มีชั้น 17 สายการบินหลายสายไม่มีที่นั่งหมายเลข 17 แม้แต่รถสัญชาติฝรั่งเศส ยี่ห้อเรโนลต์ รุ่น R17 ต้องเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น R177 เมื่อนำไปขายในอิตาลี
เลข 13
คนฝรั่ง ถ้าวันที่ 13 ตรงกับวันศุกร์ ถือว่าวันนั้นเป็นวันที่โชคร้ายเข้าไปใหญ่ อาถรรพณ์เลข 13 นั้น ชาวคริสต์มีความเชื่อว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคล เนื่องจากเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่เรียกกันว่า “เดอะ ลาสต์ ซัปเปอร์” (The Last Supper) ที่มีสาวกร่วมโต๊ะพร้อมหน้ากันกับพระองค์รวม 13 คน และความเชื่อว่าวันศุกร์เป็นวันโชคร้ายเพราะเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขน และเป็นวันที่อดัมกับอีฟละเมิดกัดแอปเปิ้ลต้องห้ามของพระผู้เป็นเจ้าในสวนเอเดนจนต้องถูกขับไล่ออกมา ยิ่งกว่านั้นยังเชื่อว่าเป็นวันที่อดัมกับอีฟล้มตายจากโลกอีกด้วย ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ตรงกับวันที่ 13 จึงเป็นวันที่เลวร้ายมากวันหนึ่ง
เลข 13 มีอิทธิพลขยายไปอย่างกว้างขวางในอเมริกาและยุโรป ที่ทำให้นักเดินเรือในบางประเทศไม่ยอมออกเรือในวันที่ 13 และที่แปลกไปกว่านั้นในประเทศตุรกีถึงขนาดตัดเลข 13 ออกจากสารบบของตัวเลขเลยทีเดียว
สำหรับเลขที่ไม่เป็นมงคลในความเชื่อของชาวตะวันตกที่รู้จักกันดีคือ เลข 13 เพราะมีความเชื่อมาจากตำนานของศาสนาคริสต์ ในอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่ชื่อว่า เดอะลาสต์ซัปเปอร์ มีผู้ร่วมโต๊ะพร้อมหน้ากับพระองค์รวม 13 คน ซึ่งจูดาร์ ศิษย์ทรยศนั่งในตำแหน่งที่ 13 ทำให้หมายเลขนี้ชาวตะวันตกถือว่าเป็นเลขอาถรรพ์ โรงแรมส่วนใหญ่มักไม่มีห้องหมายเลข 13 ไม่มีชั้นที่ 13 และหลายเมืองมักไม่มีถนนเลขที่ 13
ในทางการแพทย์ เรียกกลุ่มคนที่กลัวหมายเลข 13 จนขึ้นสมองว่า ไตรสไกเดกา โฟเบีย (Triskaideka Phobia)
13 อัปมงคล มันคือวันที่พระเยซูถูกนำไปตรึงบนไม้กางเขน และอาหารมื้อสุดท้าย (The Last Supper) ของท่าน มีคน 13 คนนั่งบนโต๊ะ ฝรั่งมังค่าจึงขยาดเลข 13 เพราะถือว่าอัปมงคล
เลข 666
ฝรั่งยังเชื่อว่าเป็นเลขปีศาจหรือซาตาน ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์และในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์โบราณ ถือว่าเลข 6 เป็นสัญลักษณ์ของซาตาน ทั้งเวลาออกเสียงภาษาอังกฤษเลข 6 (six) ยังไปพ้องกับคำว่าเจ็บป่วย (sick) ในภาษาอังกฤษ
ทางหลวงหมายเลข 666 ในสหรัฐมีฉายาว่าเป็นเส้นทางของปีศาจ (The Highway of the Beast) ซึ่งต่อมาถูกเปลี่ยนหมายเลขเป็น 491 ในปี 2546
นอกจากนี้ เหตุวินาศกรรมช็อกโลก 11 กันยายน 2544 มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่ามีเลข 11 เกี่ยวข้องมากมาย นับตั้งแต่วันที่ 11 ซึ่งเป็นวันที่ 254 ของปีที่เกิดเหตุ ถอดตัวเลขมานับรวมได้ดังนี้ 2+5+4 = 11 และเมื่อนับวันถึงสิ้นปีก็เหลือวันทั้งหมด 111 วัน
เป้าหมายที่ถูกโจมตี คือตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์นั้นก็ตั้งอยู่คู่กันมองดูเป็นเลข 11 ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นรัฐลำดับ 11 ของสหรัฐ ขณะที่เครื่องบินลำแรกที่พุ่งชนตึกเวิลด์เทรดฯ เป็นเที่ยวบินที่ 11
เลข911
กับเลขหลักคู่ เลขหลักคู่คือ เลขหลักหน่วยที่ซ้ำกัน 2 ตัว เช่น 11 หรือ 22 พัฒนาจากคณิตรหัสศาสตร์ ส่งอิทธิพลต่อชีวิตของคนเรา เหตุการณ์ประวัติศาสตร์เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิลด์เทรด ยึดโยงกับเลข 11 อย่างไม่น่าเชื่อ เที่ยวบินที่ชนเป็นเที่ยวบินที่ 11 รูปทรงตึกฯ ทั้ง 2 มองแล้วคล้ายเลข 11 นิวยอร์ค เป็นมลรัฐที่ 11 ของสหรัฐอเมริกา ลองเอา 911 (วันที่ 9 เดือนกันยายน) มารวมกัน ผลลัพธ์คือ 11
เลข12
แซยิด โหราศาสตร์จีน มี 12 นักษัตรเป็นตัวแทนบ่งบอกลักษณะของมนุษย์ที่เกิดในปีนั้น หนึ่งรอบนักษัตรจะหมุนครบ 12 วง หากหมุนครบ 5 รอบ จะได้ 60 ปี เป็นเลขมงคลแห่งชีวิต จึงมักจัดงานเลี้ยงฉลอง เรียกว่า แซยิด
เลข 6 และ 0
ทะเบียนรถ 6 และ 0 นักขับบางคนแทบเขวี้ยงป้ายทะเบียนรถที่มีเลข 6 และ เลข 0 ทิ้ง เพราะเชื่อว่าจะทำให้รถสูญหายหรือหกคว่ำ
ทุกอย่างดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา การกระทำ กรรมเก่า ส่วนดวงผมเชื่อว่าเป็นส่วนเดียว อย่ายึดติดเกินไปจนงมงายจ้า
โดย cofreelance
ที่มา http://www.oknation.net
|